สาระน่ารู้: แบตเตอรี่รถยนต์สำหรับผู้ใช้รถไม่บ่อย: เลือกให้เหมาะ ขับน้อยก็ใช้งานได้นาน

แบตเตอรี่รถยนต์สำหรับผู้ใช้รถไม่บ่อย: เลือกให้เหมาะ ขับน้อยก็ใช้งานได้นาน

คนที่ใช้รถเฉพาะวันหยุด หรือขับไม่บ่อย ควรใส่ใจเรื่องแบตเตอรี่มากกว่าปกติ เพราะการจอดรถนานโดยไม่ใช้งานคือศัตรูอันดับหนึ่งของแบตเตอรี่ การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมและดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และไม่ต้องปวดหัวกับการสตาร์ทรถไม่ติด

แบตเตอรี่รถยนต์สำหรับผู้ใช้รถไม่บ่อย: เลือกให้เหมาะ ขับน้อยก็ใช้งานได้นาน

สำหรับใครที่ใช้รถเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หรือใช้รถแบบวันเว้นวัน ปัญหาที่มักเจอบ่อยคือ แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือ สตาร์ทรถไม่ติด เมื่อจอดทิ้งไว้หลายวัน โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้ถอดขั้วแบตเตอรี่หรือไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างเครื่องชาร์จแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ

แล้วเราควรเลือกแบตเตอรี่แบบไหน? มาดูคำแนะนำกัน

 1. เลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะกับการจอดรถนาน

ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ ทนการจอดนาน (Low self-discharge) เช่น:

• แบตเตอรี่แบบแห้ง (Maintenance Free) – ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ดูแลง่าย
  
  

• แบตเตอรี่ AGM (Absorbent Glass Mat) – เก็บประจุได้ดี ทนต่อการจอดยาว
  
  

• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน – อายุใช้งานนานและน้ำหนักเบา (แต่ราคาสูง)
  
  

 2. ตรวจสอบค่าความจุ CCA และ RC

• CCA (Cold Cranking Amps): ค่ายิ่งสูงยิ่งสตาร์ทง่ายในอุณหภูมิต่ำ
  
  

• RC (Reserve Capacity): ค่ายิ่งสูงยิ่งเหมาะกับรถที่ใช้งานไม่บ่อย เพราะเก็บไฟได้ดี
  
  

 3. อุปกรณ์เสริมที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่

• เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ (Battery Maintainer) – ต่อไว้เวลาจอดช่วยชาร์จไฟเลี้ยงแบต
  
  

• ตัดอุปกรณ์กินไฟ – เช่น กล้องติดรถ GPS หรือพวกที่เสียบกับช่องจุดบุหรี่
  
  

 4. หมั่นสตาร์ทรถทุก 3-4 วัน

แม้จะไม่ได้ขับบ่อย ก็ควรสตาร์ทรถทิ้งไว้ 10-15 นาที เพื่อให้ไดชาร์จชาร์จแบต

 สรุป:

คนที่ใช้รถเฉพาะวันหยุด หรือขับไม่บ่อย ควรใส่ใจเรื่องแบตเตอรี่มากกว่าปกติ เพราะการจอดรถนานโดยไม่ใช้งานคือศัตรูอันดับหนึ่งของแบตเตอรี่ การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมและดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และไม่ต้องปวดหัวกับการสตาร์ทรถไม่ติด